Max โหลดช้า สะดุด หรือหยุดชั่วคราว

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้แอป Max เวอร์ชันล่าสุด โดยมีวิธีดังนี้

• Android: เปิด Play Store บนอุปกรณ์ Android ของคุณ แล้วค้นหา Max หากมีการอัปเดตแอป ให้เลือกอัปเดต
• iOS: เปิด App Store บนอุปกรณ์ Apple ของคุณ แล้วค้นหา Max หากมีการอัปเดตแอป ให้เลือกอัปเดต
• แท็บเล็ต Amazon Fire: เปิด Amazon Appstore บนแท็บเล็ต Fire ของคุณและค้นหา Max หากมีการอัปเดตแอป ให้เลือกอัปเดต

เมื่ออัปเดตแล้ว ให้ลองใช้ Max อีกครั้ง

• Android: เปิดการตั้งค่า จากนั้นเลือกระบบ > อัปเดตซอฟต์แวร์ (ขั้นตอนจะแตกต่างกันไปตามเวอร์ชัน Android ของคุณ)
• iOS: เปิดการตั้งค่า จากนั้นเลือกทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์
• แท็บเล็ต Amazon Fire: เปิดการตั้งค่า จากนั้นเลือกตัวเลือกอุปกรณ์ > การอัปเดตระบบ

เมื่ออัปเดตแล้ว ให้ลองใช้ Max อีกครั้ง

ก่อนอื่น ให้ตรวจสอบว่าแอป Max และ Amazon Fire TV อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด

• แอป Max: บน Fire TV ของคุณ ให้ไฮไลต์ช่อง Max จากนั้นกดปุ่มเมนูบนรีโมท (ปุ่มที่มี 3 เส้น) จากนั้นที่มุมล่างขวา ให้เลือกข้อมูลเพิ่มเติม > อัปเดต
• Amazon Fire TV: บน Fire TV ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > Fire TV ของฉัน > เกี่ยวกับ > ตรวจสอบการอัปเดตระบบ

บน Amazon Fire TV ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > เครือข่าย จากนั้นกดปุ่มเล่นบนรีโมทเพื่อตรวจสอบสถานะเครือข่ายของคุณ

คุณยังสามารถดาวน์โหลดแอปทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตจาก Amazon Appstore และทดสอบความเร็วของการเชื่อมต่อของคุณได้ด้วย หากต้องการสตรีมวิดีโอแบบ HD คุณต้องมีความเร็วในการดาวน์โหลดขั้นต่ำ 5 Mbps เพื่อสัมผัสประสบการณ์การสตรีมแบบ 4K ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดตั้งแต่ 50 Mbps ขึ้นไป

หากมีคนอื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน โปรดขอให้คนคนนั้นหยุดทำกิจกรรมชั่วคราว วิธีนี้จะจัดสรรปริมาณแบนด์วิดท์ในการสตรีม Max ให้ได้มากที่สุด

1. บน Fire TV ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > แอปพลิเคชัน > จัดการแอปพลิเคชันที่ติดตั้ง
2. เลือก Max จากรายการแอปที่คุณติดตั้ง
3. เลือกล้างแคช จากนั้นเลือกล้างข้อมูล
4. เปิด Max อีกครั้ง เข้าสู่ระบบ แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

รีสตาร์ท Fire TV และอุปกรณ์เครือข่ายของคุณดังนี้

1. ถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น)
2. รอ 30 วินาที
3. เสียบปลั๊กโมเด็มอีกครั้งและรอให้โมเด็มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ประมาณ 1 นาที)
4. เสียบปลั๊กเราเตอร์อีกครั้งและรอให้เราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
5. บน Amazon Fire TV ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > Fire TV ของฉัน > รีสตาร์ท

หาก Amazon Fire TV ของคุณมีพอร์ตอีเทอร์เน็ต ให้ลองเชื่อมต่อ Fire TV กับเราเตอร์ด้วยสายอีเทอร์เน็ต (แทนการใช้ Wi-Fi)

ตรวจสอบว่าสายเคเบิลของอุปกรณ์เครือข่าย (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น) เชื่อมต่อกันอย่างแน่นสนิทในจุดเชื่อมต่อทั้งสองด้าน สายโคแอกเซียลหรือสายอีเทอร์เน็ตที่หลวมอาจทำให้สัญญาณอ่อนลงได้

ลองรับชม Max บนอุปกรณ์ที่รองรับเครื่องอื่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยระบุว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของคุณหรืออุปกรณ์บางเครื่อง

หากปัญหาสะดุดเกิดขึ้นเฉพาะบน Fire TV ของคุณ ให้ลบแอป Max ออกจาก Fire TV จากนั้นติดตั้งแอปอีกครั้งจาก Amazon Appstore แล้วเปิด Max เพื่อลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ก่อนอื่นให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอป Max และ Android TV เป็นเวอร์ชันล่าสุดดังนี้

• แอป Max: บน Android TV ให้ไฮไลต์แอป Max จากนั้นกดปุ่มเลือกค้างไว้ แล้วเลือกดูรายละเอียด > อัปเดต
• Android TV: บน Android TV ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > ระบบ > เกี่ยวกับ > การอัปเดตระบบ > ตรวจสอบการอัปเดต

ดาวน์โหลดแอปทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตจาก Google Play Store และทดสอบความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณ (หรือทดสอบความเร็วในการดาวน์โหลดบนคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกันกับ Android TV โดยเปิดเบราว์เซอร์แล้วค้นหา "ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต")

หากต้องการรับชมวิดีโอแบบ HD คุณต้องมีความเร็วในการดาวน์โหลดขั้นต่ำ 5 Mbps เพื่อสัมผัสประสบการณ์การสตรีมแบบ 4K ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดตั้งแต่ 50 Mbps ขึ้นไป

หากมีคนอื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน โปรดขอให้คนคนนั้นหยุดทำกิจกรรมชั่วคราว วิธีนี้จะจัดสรรปริมาณแบนด์วิดท์ในการสตรีม Max ให้ได้มากที่สุด

1. บน Android TV ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > แอป > แอประบบ
2. เลือก Max จากรายการแอปที่คุณติดตั้ง
3. เลือกล้างแคช จากนั้นเลือกล้างข้อมูล
4. เปิด Max อีกครั้ง เข้าสู่ระบบ แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

หมายเหตุ ขั้นตอนเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามเวอร์ชันระบบปฏิบัติการ Android ของคุณ

วิธีรีสตาร์ท Android TV และอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ

1. ถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น)
2. รอ 30 วินาที
3. เสียบปลั๊กโมเด็มอีกครั้งและรอให้โมเด็มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ประมาณ 1 นาที)
4. เสียบปลั๊กเราเตอร์อีกครั้งและรอให้เราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
5. บน Android TV ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > เกี่ยวกับ > รีสตาร์ท > รีสตาร์ท
6. เปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

หมายเหตุ ขั้นตอนเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามเวอร์ชันระบบปฏิบัติการ Android ของคุณ

หาก Android TV ของคุณมีพอร์ตอีเทอร์เน็ต ให้ลองเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับเราเตอร์ด้วยสายอีเทอร์เน็ต (แทนการใช้ Wi-Fi)

ตรวจสอบว่าสายเคเบิลของอุปกรณ์เครือข่าย (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น) เชื่อมต่อกันอย่างแน่นสนิทในจุดเชื่อมต่อทั้งสองด้าน สายโคแอกเซียลหรือสายอีเทอร์เน็ตที่หลวมอาจทำให้สัญญาณอ่อนลงได้

ลองรับชม Max บนอุปกรณ์ที่รองรับเครื่องอื่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยระบุว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของคุณหรืออุปกรณ์บางเครื่อง

หากปัญหาสะดุดเกิดขึ้นเฉพาะบน Android TV ของคุณ ให้ลบแอป Max ออกจาก Android TV จากนั้นติดตั้งแอปอีกครั้งจาก Google Play Store แล้วเปิด Max เพื่อลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ก่อนอื่นให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอป Max และ Apple TV เป็นเวอร์ชันล่าสุดดังนี้

• แอป Max: ไปที่ App Store และค้นหา Max หากมีการอัปเดตแอป ให้เลือกอัปเดต
• Apple TV: บน Apple TV ให้ไปที่การตั้งค่า > ระบบ > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ > อัปเดตซอฟต์แวร์

จากนั้นเปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ดาวน์โหลดแอปทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตจาก App Store ของ Apple และทดสอบความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณ (หรือทดสอบความเร็วในการดาวน์โหลดบนคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกันกับ Apple TV โดยเปิดเบราว์เซอร์แล้วค้นหา "ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต")

หากต้องการรับชมวิดีโอแบบ HD คุณต้องมีความเร็วในการดาวน์โหลดขั้นต่ำ 5 Mbps เพื่อสัมผัสประสบการณ์การสตรีมแบบ 4K ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดตั้งแต่ 50 Mbps ขึ้นไป

หากมีคนอื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน โปรดขอให้คนคนนั้นหยุดทำกิจกรรมชั่วคราว วิธีนี้จะจัดสรรปริมาณแบนด์วิดท์ในการสตรีม Max ให้ได้มากที่สุด

แอปที่เปิดอยู่อาจกำลังใช้งานแบนด์วิดท์เครือข่ายหรือหน่วยความจำที่พร้อมใช้งาน ลองปิดแอปที่เปิดอยู่ทั้งหมดบน Apple TV ของคุณเพื่อเพิ่มปริมาณแบนด์วิดท์เครือข่ายหรือหน่วยความจำให้กับ Max ด้วยวิธีต่อไปนี้

1. กดปุ่มทีวีสองครั้งติดกันบนรีโมท Apple TV ของคุณ
2. ปัดขึ้นเพื่อปิดแอปที่เลือก (ปัดไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อไปยังแอปที่เปิดอยู่)
3. เมื่อคุณปิดแอปทั้งหมดแล้ว ให้เปิด Max อีกครั้งแล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

วิธีรีสตาร์ท Apple TV และอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ

1. ถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น)
2. รอ 30 วินาที
3. เสียบปลั๊กโมเด็มอีกครั้งและรอให้โมเด็มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ประมาณ 1 นาที)
4. เสียบปลั๊กเราเตอร์อีกครั้งและรอให้เราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
5. บน Apple TV ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > เกี่ยวกับ > ระบบ > รีสตาร์ท
6. เปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

หาก Apple TV ของคุณมีพอร์ตอีเทอร์เน็ต ให้ลองเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับเราเตอร์ด้วยสายอีเทอร์เน็ต (แทนการใช้ Wi-Fi)

ตรวจสอบว่าสายเคเบิลของอุปกรณ์เครือข่าย (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น) เชื่อมต่อกันอย่างแน่นสนิทในจุดเชื่อมต่อทั้งสองด้าน สายโคแอกเซียลหรือสายอีเทอร์เน็ตที่หลวมอาจทำให้สัญญาณอ่อนลงได้

ลองรับชม Max บนอุปกรณ์ที่รองรับเครื่องอื่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยระบุว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของคุณหรืออุปกรณ์บางเครื่อง

หากปัญหาสะดุดเกิดขึ้นเฉพาะบน Apple TV ของคุณ ให้ลบแอป Max ออกจาก Apple TV จากนั้นติดตั้งแอปอีกครั้งจาก Apple App Store แล้วเปิด Max เพื่อลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ก่อนอื่น ให้ตรวจสอบว่าแอป Max และทีวี VIDAA อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดดังนี้

• แอป Max: บนทีวี VIDAA ของคุณ ให้เปิด VIDAA App Store และไปที่แอปของฉัน ไฮไลต์ Max แล้วเลือกอัปเดต (หากมี)
• ทีวี VIDAA: บนทีวี VIDAA ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่าระบบ > การสนับสนุน > การอัปเกรดระบบ > การอัปเกรดเฟิร์มแวร์

จากนั้นเปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ทดสอบความเร็วในการดาวน์โหลดจากคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายเดียวกันกับทีวี VIDAA ของคุณ โดยเปิดเบราว์เซอร์และค้นหา “ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต”

หากต้องการรับชมวิดีโอแบบ HD คุณต้องมีความเร็วในการดาวน์โหลดขั้นต่ำ 5 Mbps เพื่อสัมผัสประสบการณ์การสตรีมแบบ 4K ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดตั้งแต่ 50 Mbps ขึ้นไป

หากมีคนอื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน โปรดขอให้คนคนนั้นหยุดทำกิจกรรมชั่วคราว วิธีนี้จะจัดสรรปริมาณแบนด์วิดท์ในการสตรีม Max ให้ได้มากที่สุด

รีสตาร์ททีวี VIDAA และอุปกรณ์เครือข่ายของคุณดังนี้

1. ถอดปลั๊กทีวี VIDAA
2. ถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น)
3. รอ 30 วินาที
4. เสียบปลั๊กโมเด็มอีกครั้งและรอให้โมเด็มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ประมาณ 1 นาที)
5. เสียบปลั๊กเราเตอร์อีกครั้งและรอให้เราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
6. เสียบปลั๊กทีวีอีกครั้ง จากนั้นเปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

หากทีวี VIDAA ของคุณมีพอร์ตอีเทอร์เน็ต ให้ลองเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับเราเตอร์ด้วยสายอีเทอร์เน็ต (แทนการใช้ Wi-Fi)

ตรวจสอบว่าสายเคเบิลของอุปกรณ์เครือข่าย (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น) เชื่อมต่อกันอย่างแน่นสนิทในจุดเชื่อมต่อทั้งสองด้าน สายโคแอกเซียลหรือสายอีเทอร์เน็ตที่หลวมอาจทำให้สัญญาณอ่อนลงได้

ลองรับชม Max บนอุปกรณ์ที่รองรับเครื่องอื่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยระบุว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของคุณหรืออุปกรณ์บางเครื่อง

หากปัญหาสะดุดเกิดขึ้นเฉพาะบนทีวี VIDAA ของคุณ ให้ลบแอป Max ออกจากทีวี VIDAA จากนั้นติดตั้งแอปอีกครั้งจาก VIDAA App Store แล้วเปิด Max เพื่อลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ก่อนอื่นให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอป Max และทีวี LG เป็นเวอร์ชันล่าสุดดังนี้

• แอป Max: กดปุ่มโฮมบนรีโมททีวี LG จากนั้นเลือกการตั้งค่าทั้งหมด > ทั่วไป > เกี่ยวกับทีวีเครื่องนี้ > ตรวจสอบการอัปเดต
• ทีวี LG: กดปุ่มการตั้งค่าบนรีโมททีวี LG จากนั้นเลือกการตั้งค่าทั้งหมด > ทั่วไป > เกี่ยวกับทีวีเครื่องนี้ > ตรวจสอบการอัปเดต

จากนั้นเปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ทดสอบความเร็วในการดาวน์โหลดของคุณจากคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายเดียวกันกับทีวี LG ของคุณ โดยเปิดเบราว์เซอร์และค้นหา "ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต"

หากต้องการรับชมวิดีโอแบบ HD คุณต้องมีความเร็วในการดาวน์โหลดขั้นต่ำ 5 Mbps เพื่อสัมผัสประสบการณ์การสตรีมแบบ 4K ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดตั้งแต่ 50 Mbps ขึ้นไป

หากมีคนอื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน โปรดขอให้คนคนนั้นหยุดทำกิจกรรมชั่วคราว วิธีนี้จะจัดสรรปริมาณแบนด์วิดท์ในการสตรีม Max ให้ได้มากที่สุด

หมายเหตุ ขั้นตอนเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามรุ่นทีวี LG ของคุณ

1. กดปุ่มบ้านบนรีโมททีวี LG ค้างไว้ จากนั้นไปที่แอปล่าสุดของคุณ
2. เลือกแอป Max แล้วกดปุ่มขึ้นบนรีโมทของคุณ
3. เลือก X เพื่อปิด Max
4. เปิด Max อีกครั้งแล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

วิธีรีสตาร์ททีวี LG และอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ

1. ถอดปลั๊กทีวี LG ของคุณ
2. ถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น)
3. รอ 30 วินาที
4. เสียบปลั๊กโมเด็มอีกครั้งและรอให้โมเด็มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ประมาณ 1 นาที)
5. เสียบปลั๊กเราเตอร์อีกครั้งและรอให้เราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
6. เสียบปลั๊กทีวีอีกครั้ง จากนั้นเปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

หากทีวี LG ของคุณมีพอร์ตอีเทอร์เน็ต ให้ลองเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับเราเตอร์ด้วยสายอีเทอร์เน็ต (แทนการใช้ Wi-Fi)

ตรวจสอบว่าสายเคเบิลของอุปกรณ์เครือข่าย (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น) เชื่อมต่อกันอย่างแน่นสนิทในจุดเชื่อมต่อทั้งสองด้าน สายโคแอกเซียลหรือสายอีเทอร์เน็ตที่หลวมอาจทำให้สัญญาณอ่อนลงได้

ลองรับชม Max บนอุปกรณ์ที่รองรับเครื่องอื่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยระบุว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของคุณหรืออุปกรณ์บางเครื่อง

หากพบปัญหาสะดุดเกิดขึ้นเฉพาะบนทีวี LG ของคุณ ให้ลบแอป Max ออกจากทีวี LG จากนั้นติดตั้งแอปอีกครั้งจาก LG Content Store แล้วเปิด Max เพื่อลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ก่อนอื่นให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอป Max และคอนโซล PlayStation ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุด

• แอป Max: บน PlayStation ของคุณ ให้ไฮไลต์ Max แล้วกดปุ่มตัวเลือกบนคอนโทรลเลอร์ จากนั้นตรวจสอบการอัปเดต
• คอนโซล PlayStation: บน PlayStation ของคุณ ให้ไปที่เมนูการตั้งค่า แล้วเลือกการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบ

จากนั้นเปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

1. บน PlayStation ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > เครือข่าย
2. จากนั้นให้เลือกทําอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
   • PlayStation 4: เลือกการทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
   • PlayStation 5: บน PlayStation ของคุณ ให้ไปที่เมนูการตั้งค่า แล้วเลือกการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบ

หากต้องการรับชมวิดีโอแบบ HD คุณต้องมีความเร็วในการดาวน์โหลดขั้นต่ำ 5 Mbps เพื่อสัมผัสประสบการณ์การสตรีมแบบ 4K ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดตั้งแต่ 50 Mbps ขึ้นไป

หากมีคนอื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน โปรดขอให้คนคนนั้นหยุดทำกิจกรรมชั่วคราว วิธีนี้จะจัดสรรปริมาณแบนด์วิดท์ในการสตรีม Max ให้ได้มากที่สุด

1. บน PlayStation ของคุณ ให้ไฮไลต์แอป Max จากนั้นกดปุ่มตัวเลือกบนคอนโทรลเลอร์ PlayStation ของคุณ
2. เลือกปิดแอป
3. เปิด Max อีกครั้งแล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

วิธีรีสตาร์ท PlayStation และอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ

1. ปิดคอนโซล PlayStation ของคุณ
2. ถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น)
3. รอ 30 วินาที
4. เสียบปลั๊กโมเด็มอีกครั้งและรอให้โมเด็มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ประมาณ 1 นาที)
5. เสียบปลั๊กเราเตอร์อีกครั้งและรอให้เราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
6. เปิด PlayStation ของคุณอีกครั้ง จากนั้นเปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ลองเชื่อมต่อคอนโซล PlayStation ของคุณกับเราเตอร์ด้วยสายอีเทอร์เน็ต (แทนการใช้ Wi-Fi)

ตรวจสอบว่าสายเคเบิลของอุปกรณ์เครือข่าย (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น) เชื่อมต่อกันอย่างแน่นสนิทในจุดเชื่อมต่อทั้งสองด้าน สายโคแอกเซียลหรือสายอีเทอร์เน็ตที่หลวมอาจทำให้สัญญาณอ่อนลงได้

ลองรับชม Max บนอุปกรณ์ที่รองรับเครื่องอื่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยระบุว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของคุณหรืออุปกรณ์บางเครื่อง

หากปัญหาสะดุดเกิดขึ้นเฉพาะบน PlayStation ของคุณ ให้ลบแอป Max ออกจาก PlayStation จากนั้นติดตั้งแอปอีกครั้งจาก PlayStation Store แล้วเปิด Max เพื่อลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ก่อนอื่นให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอป Max และทีวี Samsung เป็นเวอร์ชันล่าสุดดังนี้

• แอป Max: กดปุ่มโฮมบนรีโมท จากนั้นเลือกแอป > ไอคอนการตั้งค่า > อัปเดต
• ทีวี Samsung: กดปุ่มหน้าหลักบนรีโมทของคุณ จากนั้นไปที่ไอคอนการตั้งค่า เลือกการสนับสนุน > การอัปเดตซอฟต์แวร์ > อัปเดตเลย

จากนั้นเปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ทดสอบความเร็วในการดาวน์โหลดของคุณจากคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายเดียวกันกับทีวี Samsung ของคุณ โดยเปิดเบราว์เซอร์และค้นหา "ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต"

หากต้องการรับชมวิดีโอแบบ HD คุณต้องมีความเร็วในการดาวน์โหลดขั้นต่ำ 5 Mbps เพื่อสัมผัสประสบการณ์การสตรีมแบบ 4K ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดตั้งแต่ 50 Mbps ขึ้นไป

หากมีคนอื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน โปรดขอให้คนคนนั้นหยุดทำกิจกรรมชั่วคราว วิธีนี้จะจัดสรรปริมาณแบนด์วิดท์ในการสตรีม Max ให้ได้มากที่สุด

วิธีรีสตาร์ท Samsung TV และอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ

1. ถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น)
2. รอ 30 วินาที
3. เสียบปลั๊กโมเด็มอีกครั้งและรอให้โมเด็มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ประมาณ 1 นาที)
4. เสียบปลั๊กเราเตอร์อีกครั้งและรอให้เราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
5. กดปุ่มเปิด/ปิดบนรีโมททีวี Samsung ค้างไว้จนกว่าทีวีจะปิด แล้วเปิดใหม่อีกครั้ง
6. เปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ทีวี Samsung บางรุ่นมีตัวเลือกในการล้างแคชและข้อมูลของแอป ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. กดปุ่มโฮมบนรีโมททีวี Samsung ของคุณ จากนั้นไปที่ไอคอนการตั้งค่า
2. เลือกการสนับสนุน (หากจำเป็น) จากนั้นเลือกการดูแลอุปกรณ์
3. เลือกจัดการพื้นที่เก็บข้อมูล
4. ค้นหา Max แล้วเลือกดูรายละเอียด
5. เลือกล้างแคช
6. เลือกล้างข้อมูล
7. เปิด Max จากนั้นให้เข้าสู่ระบบแล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

หมายเหตุ การล้างแคชและข้อมูลของแอปสามารถทำได้ในทีวี Samsung บางรุ่นเท่านั้น และขั้นตอนในทีวีแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ samsung.com/support

หากทีวี Samsung ของคุณมีพอร์ตอีเทอร์เน็ต ให้ลองเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับเราเตอร์ด้วยสายอีเทอร์เน็ต (แทนการใช้ Wi-Fi)

ตรวจสอบว่าสายเคเบิลของอุปกรณ์เครือข่าย (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น) เชื่อมต่อกันอย่างแน่นสนิทในจุดเชื่อมต่อทั้งสองด้าน สายโคแอกเซียลหรือสายอีเทอร์เน็ตที่หลวมอาจทำให้สัญญาณอ่อนลงได้

ลองรับชม Max บนอุปกรณ์ที่รองรับเครื่องอื่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยระบุว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของคุณหรืออุปกรณ์บางเครื่อง

หากปัญหาสะดุดเกิดขึ้นเฉพาะบนทีวี Samsung ของคุณ ให้ลบแอป Max ออกจากทีวี Samsung จากนั้นติดตั้งแอปอีกครั้งจาก Samsung App Store แล้วเปิด Max เพื่อลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ตรวจสอบสถานะของบริการ Xbox ในหน้าสถานะ Xbox

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอป Max และคอนโซล Xbox ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุด

• แอป Max: บน Xbox ของคุณ ให้ไปที่เกมและแอปของฉัน จากนั้นไฮไลต์ Max แล้วกดปุ่มเมนูบนคอนโทรลเลอร์ จากนั้นเลือกจัดการแอปเพื่อติดตั้งการอัปเดต
• คอนโซล Xbox: บน Xbox ของคุณ ให้ไปที่โปรไฟล์และระบบ > การตั้งค่า > ระบบ > การอัปเดต

จากนั้นเปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

หากต้องการทดสอบความเร็วในการเชื่อมต่อของคุณ ให้ไปที่แก้ไขปัญหาความเร็วในการเชื่อมต่อ Xbox แล้วเลือกเรียกใช้การทดสอบความเร็วของคอนโซล

หากต้องการรับชมวิดีโอแบบ HD คุณต้องมีความเร็วในการดาวน์โหลดขั้นต่ำ 5 Mbps เพื่อสัมผัสประสบการณ์การสตรีมแบบ 4K ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดตั้งแต่ 50 Mbps ขึ้นไป

หากมีคนอื่นที่ใช้เครือข่ายเดียวกัน โปรดขอให้คนคนนั้นหยุดทำกิจกรรมชั่วคราว วิธีนี้จะจัดสรรปริมาณแบนด์วิดท์ในการสตรีม Max ให้ได้มากที่สุด

1. กดปุ่ม Xbox บนคอนโทรลเลอร์ของคุณ
2. ไฮไลต์ Max จากนั้นกดปุ่มเมนู แล้วเลือกปิด
3. เปิด Max อีกครั้งแล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

วิธีรีสตาร์ท Xbox และอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ

1. ถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์เครือข่ายของคุณ (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น)
2. รอ 30 วินาที
3. เสียบปลั๊กโมเด็มอีกครั้งและรอให้โมเด็มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (ประมาณ 1 นาที)
4. เสียบปลั๊กเราเตอร์อีกครั้งและรอให้เราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
5. กดปุ่ม Xbox บนคอนโทรลเลอร์ของคุณและเลือกรีสตาร์ทคอนโซล > รีสตาร์ท
6. เปิด Max แล้วลองรับชมสักรายการหนึ่ง

ลองเชื่อมต่อคอนโซล Xbox ของคุณกับเราเตอร์ด้วยสายอีเทอร์เน็ต (แทนการใช้ Wi-Fi)

ตรวจสอบว่าสายเคเบิลของอุปกรณ์เครือข่าย (โมเด็ม เราเตอร์ เป็นต้น) เชื่อมต่อกันอย่างแน่นสนิทในจุดเชื่อมต่อทั้งสองด้าน สายโคแอกเซียลหรือสายอีเทอร์เน็ตที่หลวมอาจทำให้สัญญาณอ่อนลงได้

ลองรับชม Max บนอุปกรณ์ที่รองรับเครื่องอื่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยระบุว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของคุณหรืออุปกรณ์บางเครื่อง

หากปัญหาสะดุดเกิดขึ้นเฉพาะบน Xbox ของคุณ ให้ลบแอป Max ออกจาก Xbox จากนั้นติดตั้งแอปอีกครั้งจาก Xbox Store แล้วเปิด Max เพื่อลองรับชมสักรายการหนึ่ง